10 ปี เราไม่ลืม

แดดเมษาร้อนเหมือนทุกปี

เทศกาลสงกรานต์ควรเป็นช่วงเวลาพร้อมหน้าของครอบครัว ขณะที่สงกรานต์ปี 53 บางคนไม่ได้กลับบ้าน  และนั่นหมายถึงการไม่มีเทศกาลสงกรานต์ตลอดไป

สามวันก่อนหน้าเทศกาลที่แยกคอกวัว 10 เมษายน 2553 เจ้าหน้าที่ทหารในนามของศอฉ. ประกาศ ‘ขอคืนพื้นที่’ จากผู้ชุมนุมกลุ่มนปช.ซึ่งชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภาและจัดการเลือกตั้ง พวกเขาเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้นำรัฐบาลจากการจัดตั้งในค่ายทหาร ซึ่งหมายถึงการผิดหลักการประชาธิปไตย

ปูนปั้นรูปประชาชนบริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเต็มไปด้วยรอยกระสุน

วาทกรรม ‘ชายชุดดำ’ แพร่กระจายเป็นวงกว้าง พร้อมๆกับข้อกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย ฆ่ากันเองแล้วโยนความผิดให้รัฐบาล…ซึ่งหลายคนพร้อมที่จะเชื่อ

ย่างเข้าพฤษภาคม ผู้ค้าย่านสยามสแควร์ส่งเสียงบ่น “เมื่อไหร่รัฐบาลจะจัดการเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุม” พวกเขาได้รับผลกระทบจากรายได้ที่หดหาย หลังการชุมนุมยืดเยื้อ

จากแยกราชประสงค์ยาวถึงแยกศาลาแดง ผู้ชุมนุมยังคงปักหลัก บางคนเช้าไปเย็นกลับ ขณะที่บางคนปักหลักหูงหาอาหารริมถนนใจกลางเมือง

ผู้ไม่เห็นด้วยกับการปิดพื้นที่ชุมนุมในนาม ‘กลุ่มเสื้อหลากสี’ ตะโกนด่าทอจากแยกศาลาแดงหวังส่งเสียงผ่านถนนพระราม 4 ไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงอีกฝากถนน

ศอฉ. ที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศกระชับพื้นที่ ซึ่ตามมาด้วยการประกาศใช้ ‘กระสุนจริง’ ในเวลาต่อมาไม่นาน  

บริเวณพื้นที่บ่อนไก่ ท่ามกลางกองยางรถยนต์และควันดำปกคลุม เท่าที่ตาเห็นผู้ชุมนุมพยายามต่อสู้กับทหารด้วยหนังสติ๊กและบั้งไฟประดิษฐ์

ผมหลบที่มุมตึก ท่ามกลางเสียงปืนและความชุลมุน ตื่นเต้น หวาดกลัว หลายความรู้สึกปะปนกับคำถามและภาพตรงหน้า  ร่างไร้วิญญาณถูกอุ้มออกมา หมวกดับเพลงที่สวมใส่เต็มไปด้วยคราบเลือดสีแดง…

รัฐบาลพยายามอธิบายเรื่องกลุ่มผู้ก่อการร้ายและชายชุดดำที่มาพร้อมวาทะกรรม เผาบ้านเผาเมือง

117,923 คือจำนวนกระสุนที่ถูกใช้ระหว่างการสลายการชุมนุม

10 ปี ผ่านไป…

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กลับไปอยู่บ้านเลี้ยงแมวหลังแพ้การเลือกตั้ง

สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นแกนนำกปปส.ปูทางคณะรัฐประหาร

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 

“กระสุนฟรีจากภาษีประชาชน” ใครบางคนตะโกนบอกความคับแค้นใจ

ผู้ชุมนุม ช่างภาพ กู้ภัย พยาบาลอาสา  รวมถึงเด็กหนุ่มบางคนจากไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น

ไม่มีความรับผิดชอบปรากฏให้เห็น เช่นเดียวกับความยุติธรรม

ไม่มีประชาชนอยู่ในบทเรียนประวัติศาสตร์ที่ถูกเลือกบันทึก

ในความเป็นมนุษย์ 

พวกเขามีชีวิต มีเลือด มีเนื้อ ไม่ต่างจากเรา